08 Jun
08Jun

  สำหรับประเทศไทยเราในตอนนี้ก็ย่างก้าวเข้าสู่หน้าฝนเป็นที่เรียบร้อยแล้วอย่างเต็มรูปแบบ ผ่านหน้าร้อนมาไม่เท่าไหร่แม้ว่าจะมีการดูแลรถในหน้าร้อนที่ผ่านมาไปบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็อาจจะมีอุปกรณ์บางอย่างที่มีการเสื่อมสภาพไปตามการใช้งานอย่างหนักหน่วง เมื่อตอนต้องมาใช้งานในหน้าฝนที่ต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ไม่แพ้กันเลย ทำให้เราจะต้องมีการใส่ใจดูแล เช็กบางอย่างเป็นพิเศษพร้อมกับข้อควรระวังในการดูแลรถในหน้าฝนและใช้งานรถยนต์หรือบรรทุกที่รักของเราให้ไม่เสื่อมสภาพหรือหมดอายุการใช้งานก่อนเวลาอันควร และที่สำคัญไปกว่านั้นการเดินทางในยามที่ต้องฝ่าฟันกับฝนที่ตกหนัก ทำให้ถนนลื่นรวมทั้งทัศนวิสัยยังแย่ขึ้นไปอีก ทำให้มีความเสี่ยงต่อโอกาสการเกิดอุบัติเหตุสูงอีกด้วย และต่อไปนี้จะเป็นเทคนิคง่าย ๆ ในการดูแลรถในหน้าฝนที่ P.I.E Premium Modern Truck ได้รวบรวมมา รับรองว่าจะช่วยให้ทุกท่านมีการขับขี่ที่ปลอดภัยและรักษาอายุการใช้งานของรถอย่างแน่นอน


ความสะอาดรถถึงแม้ว่าลุยฝนมา

 เชื่อเลยคงมีใครหลายคนที่เมื่อเวลาหน้าฝนมักจะไม่อยากทำความสะอาดรถ เพราะคิดว่าถึงจะล้างไปเดี๋ยวฝนตกรถก็เลอะอีกอยู่ดี ซึ่งต้องบอกว่านั่นเป็นความคิดที่ผิดและจะเป็นการกระทำที่ทำร้ายผิวรถของคุณอย่างมาก ไม่ว่าจะคุณจะขับรถออกไปลุยกับสายฝนมาหรือว่าแม้แต่จะจอดตากฝนไว้ แต่รู้หรือไม่ว่าในน้ำฝนที่มีทั้งฝุ่น เศษดิน หินและสิ่งสกปรกปนเปื้อน และยิ่งไปกว่านั้นในน้ำฝนเองก็มีฤทธิ์เป็นกรดอีกด้วย ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้จะเกิดเป็นคราบฝังแน่นและกรดก็กัดกร่อนสีรถให้หม่นหมองดูเก่า เพราะฉะนั้นควรใช้ฉีดน้ำล้างทำความสะอาดก่อนตามด้วยเช็ดด้วยผ้าเช็ดรถ แต่ถ้าหากใครยังไม่อยากจะล้างรถหลังจากที่ตากฝนมาแล้วจะใช้การเช็ดทันทีก็ต้องบอกว่าเป็นความคิดที่ผิดอีก เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าในน้ำฝนก็มีการปนเปื้อนของทั้งฝุ่น เศษดิน หินเล็ก ๆ การที่เช็ดโดยไม่ล้างออกก่อน เศษคราบต่าง ๆ ที่เช็ดตกค้างอาจขูดขีดรถจนเกิดรอยขนแมวอันจะแสนน่ารำคาญให้เสียหายได้


ไม่ควรจอดรถใต้ร่มต้นไม้

ทุกครั้งที่ฝนตกก็มักมาพร้อมกับลมเสมอ ดังนั้นการจอดรถใต้ร่มต้นไม้อาจเพิ่มความเสี่ยงที่ใบไม้ยางไม้ เกสร ดอก หรือผล รวมถึงเศษกิ่งไม้หล่นลงบนรถ ส่งผลให้สีรถด่างหรือเกิดรอยขูดขีด ถ้าหากในสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือกิ่งไม้ขนาดใหญ่หรือต้นไม้หักล้มทับรถจะความเสียหายหนักได้ แต่ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงและจำเป็นที่ต้องจอดจริง ๆ แนะนำว่าหาผ้ามาคลุมรถไว้ก่อนที่ฝนจะตก


เคลือบสีรถ

การเคลือบสีอาจจะเป็นตัวเลือกและเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการใช้รถในหน้าฝน นอกจากจะช่วยรักษาสภาพสีผิวรถแล้วยังช่วยป้องกันการเกาะของน้ำและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ก็จะเป็นการเกิดคราบไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังจะช่วยป้องกันสีจากการกัดกร่อนจากกรดอ่อน ๆ ในน้ำฝนได้อีก แถมทำให้สิ่งสกปรกหลุดออกไปง่ายดายกว่าเดิมเวลาที่ล้างทำความสะอาดรถ


เช็กสภาพของใบปัดน้ำฝน และน้ำยาฉีดกระจก

เวลาที่ขับขี่ท่ามกลางสถานการณ์ฝนตกก็ทำให้มีทัศนวิสัยในการมองเห็นยากขึ้น ด้วยเม็ดฝนที่สายลงบนกระจก ซึ่งใบปัดน้ำฝนจะมีหน้าที่สำคัญในการปัดเอาบรรดาน้ำฝนออกเป็นระยะเพื่อให้เรามีความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น ส่วนน้ำน้ำยาฉีดกระจกจะมีหน้าที่ในการช่วยฉีดล้างบรรดาคราบสิ่งสกปรกที่จะเกิดบนกระจกหลังจากที่ฝนหยุด ดังนั้นทั้งสองอย่างนี้ควรหมั่นเช็กเสมอ โดยใบปัดน้ำฝนจะต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ไม่เสื่อมสภาพมีรอยแตก แข็งแห้งจนไม่สามารถใช้งานได้ หรือมีเสียงเกิดขึ้นระหว่างที่ใช้งาน ส่วนน้ำยาฉีดกระจกก็ควรหมั่นเติมให้อยู่ในระดับที่กำหนดอยู่เสมอ เพื่อให้พร้อมทุกสถานการณ์


เช็กซีลยางขอบประตู

หน้าที่ในการกันลมหรือน้ำที่จะรั่วซึมเข้ามาภายในห้องโดยสารในเวลาที่ขับรถท่ามกลางสายฝนก็คือ ซีลยางขอบประตูรถนั่นเอง เราจะต้องเช็กว่าตัวซีลยางนั้นมีสภาพที่สมบูรณ์อยู่ตลอดเวลา ไม่มีการเสื่อมสภาพหรือบิดเบี้ยว มีรอยขาด รอยแตกต่าง ๆ เมื่อใช้มือบีบจับไปแล้วต้องไม่นิ่มหรือว่าแข็งจนเกินไป ดังนั้นเพื่อป้องการเกิดการรั่วซึมของสิ่งต่าง ๆ เข้ามาภายในห้องโดยสาร เมื่อพบปัญหาที่กล่าวมาก็ควรจะเปลี่ยนทันที


ตรวจเช็กระบบต่าง ๆ ภายในของรถ

ในการขับรถช่วงหน้าฝนทำให้เครื่องยนต์ต้องรับหน้าที่ทำงานอย่างหนักไม่แพ้จากหน้าร้อนเลยทีเดียว และก็อาจจะเกิดการสึกหรอของกลไกต่าง ๆ ภายในรถได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานรถ จำเป็นตรวจเช็กสภาพในส่วนต่าง ๆ รถให้มีสภาพสมบูรณ์และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

  • ระบบเบรก

ในช่วงหน้าฝนระบบเบรกก็ทำงานหนักไม่ต่างส่วนอื่น ๆ เลยทีเดียวเพราะทุกครั้งที่มีฝนตกลงมาก็ทำให้ถนนเปียกลื่น ทำให้เป็นการเดินทางที่มีความเสี่ยงสูง และมีโอกาสที่เกิดเกิดอุบัติเหตุสูงมาก ระบบการทำงานของเบรกจึงจำเป็นต้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เราก็จะต้องดูแลตรวจเช็กน้ำมันเบรกและสังเกตผ้าเบรกว่ามีการสึกหรอหรือไม่อยู่เสมอ ข้อสังเกตง่าย ๆ ของผ้าเบรกเมื่อมีการสึกหรอก็คือตอนเหยียบเบรกแล้วจมลึกกว่าปกติ หรือในตอนที่เหยียบเบรกแล้วมีการดึงที่ล้อหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง ถ้าหากพบปัญหาดังกล่าวก็ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อแก้ไขทันที

  • ลมยางและยางรถยนต์

ยางของรถเองก็มีความสำคัญไม่แพ้เรื่องของระบบเบรกเลยทีเดียว นอกจากเบรกจะช่วยควบคุมรถบนท้องถนนที่มีความเปียกและลื่นแล้ว ดอกยางของล้อรถจะช่วนในการรีดน้ำออก ส่วนลมยางจะช่วยให้รถมีความเกาะถนนได้ดีขึ้น ดังนั้นควรหมั่นเช็กสภาพของดอกยางไม่ให้มีร่องรอยการเสื่อมสภาพและเติมลมยางให้เหมาะสมตามคู่อยู่มือรถไว้เสมอ

  • ระบบไฟส่องสว่างรอบคันรถ

ในระหว่างที่ขับรถขณะที่มีฝนตกลงมาอาจจะทำให้มีทัศนวิสัยที่ค่อนข้างลำบาก และยิ่งจะยากขึ้นไปอีกในเวลาที่ตกฝนในตอนกลางคืน สิ่งที่ช่วยให้มองเห็นได้มากขึ้นก็คือไฟ จะคอยทำหน้าที่ในการส่องแสงทั้งให้เราได้มองเห็นเส้นทางที่มุ่งหน้าไป และทั้งช่วยให้รถคันที่อยู่ข้างหลังมองเห็นรถของเราและกะระยะในการเบรกของเราได้ด้วย ไฟรอบคันรถทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟต่ำ ไฟสูง ไฟตัดหมอกหน้าและหลัง ไฟฉุกเฉิน ไฟเลี้ยว หรือไฟถอยหลัง ที่กล่าวมาทั้งหมดมีความสำคัญทั้งหมด ดังนั้นต้องคอยเช็กว่าไฟจะติดครบติดทุกดวงให้พร้อมใช้งานอยู่ตลอด


อ่านเพิ่มเติมได้ที่ การดูแลรถในหน้าฝน

ติดตามข่าวสาร และ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถบรรทุก 

ได้ที่ : P.I.E. Premium Modern Truck ขายรถบรรทุก

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : P.I.E Premium Modern Truck


Comments
* The email will not be published on the website.
I BUILT MY SITE FOR FREE USING